เครื่องประดับต้นคริสต์มาส
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
เครื่องประดับต้นคริสต์มาส ส่วนใหญ่วัสดุที่ใช้นิยมทำจากแก้ว เหล็ก ไม้ เซรามิค และพลาสติค ใช้ประดับต้นคริสต์มาส เครื่องประดับต้นคริสต์มาสมีรูปร่างต่างๆ กันไป เช่น ทรงกลมแบบลูกบอลที่เรียบง่าย ไปจนถึงรูปทรงที่ดีไซน์สวยหรู เครื่องประดับต้นคริสต์มาสมักนำมาใช้เวียนไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เป็นของที่ต้องซื้อกันใหม่ทุกๆ ปี คอลเล็คชั่นต่างๆ ที่แต่ละครอบครัวมีมักจะเป็นผสมปนเปกันไประหว่างเครื่องประดับที่สมาชิกครอบครัวประดิษฐ์ขึ้นเองกับที่ซื้อจากห้าง สรรพสินค้า เครื่องประดับเหล่านี้มักนิยมใช้สืบทอดต่อๆ กันไปจากยุคต่อยุค
เครื่องประดับต้นคริสต์มาสซึ่งเป็นที่นิยมมาก คือ รูปซานตาคลอส ขนมแคนดี้เคน ผลไม้ สัตว์ต่างๆ สโนว์แมน นางฟ้า และรูปเกล็ดหิมะ
กำเนิดเครื่องประดับต้นคริสต์มาส
[แก้]แรกเริ่มเดิมทีการตกแต่งต้นคริสต์มาสได้แรงบันดาลใจจากผลแอ็ปเปิ้ล ขนมแคนดี้เคน และขนมอบต่างๆ ซึ่งทำในรูปของดวงดาว หัวใจ และดอกไม้ เครื่องประดับต้นคริสต์มาสซึ่งทำด้วยแก้วนั้นกำเนิดจากเมืองลอช่า ประเทศเยอรมนี โดย ฮันส์ ไกรเนอร์ (ค.ศ. 1550-1609) ผู้ประดิษฐ์พวงหรีดคริสต์มาสที่ทำจากลูกปัดแก้วและเครื่องประดับที่ทำจากโลหะไว้ห้อยบนต้น เครื่องประดับต้นที่ทำจากแก้วนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและมักจะประดิษฐ์โดยช่างผู้มากด้วยฝีมือ ช่างผู้เชี่ยวชาญจะนำหลอดแก้วไปเผาไฟและนำหลอดสอดเข้าไปในเบ้าดินเผาเพื่อเป่าแก้วที่ร้อนๆ ให้เข้ารูปทรงของเบ้า เครื่องประดับสมัยแรกเริ่มนั้นมักจะมีรูปร่างเป็นผลไม้หรือถั่วต่างๆ
ดาวคริสต์มาส
[แก้]ต้นคริสต์มาสส่วนใหญ่มักจะต้องมีการประดับดาวไว้บนยอดจึงจะสมบูรณ์ ตำนานเล่าว่าขณะที่พระเยซูทรงประสูตินั้น โหราจารย์ได้มองเห็นดาวดวงหนึ่งที่สุกสว่างกว่าดาวอื่นๆ อย่างน่าอัศจรรย์บนท้องฟ้าจึงได้ออกตามหาดาวดวงนั้นโดยการตามแสงของดาวไปจนพบสถานที่ประสูติของพระเยซูที่เมืองเบ็ธเลเฮ็ม ประเทศปาเลสไตน์ จากนั้นมาชาวคริสต์จึงถึงว่า “ดาว” คือสัญลักษณ์ของการจุติของพระเยซูเจ้าบนโลกมนุษย์ ทั่วโลกจึงขนานนามดาวดวงนั้นว่า “Star of Bethlehem”[1]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-07. สืบค้นเมื่อ 2019-12-10.