เจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ ผู้มีหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพักของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ มาร์-อะ-ลาโก ในรัฐฟลอริด้า ในสัปดาห์นี้ ได้ยึดเอกสารลับกว่าสิบชุด ซึ่งมีบางส่วนระบุว่าเป็นเอกสารลับสุดยอด ตามการเปิดเผยของกระทรวงยุติธรรมเมื่อวันศุกร์ และยังเปิดเผยด้วยว่ามีสาเหตุที่น่าจะเชื่อว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้อาจละเมิดกฎหมายจารกรรม
การเปิดเผยเอกสารครั้งใหญ่นี้ เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ได้เข้าตรวจค้นบ้านของอดีตปธน.ทรัมป์ เมื่อวันจันทร์ โดยอิงจากหมายค้นที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลกลาง
ทางเอฟบีไอ ได้ยึดเอกสารและสิ่งของมากกว่า 30 ชิ้น รวมทั้งกล่อง 20 กล่อง มีเอกสารในระดับ “ลับสุดยอด” แฟ้มภาพ กระดาษโน้ตที่เขียนด้วยลายมือ เอกสารคำสั่งอภัยโทษให้แก่โรเจอร์ สโตน พันธมิตรทางการเมืองของอดีตปธน.ทรัมป์ และมีข้อมูลเกี่ยวกับ “ประธานาธิบดีฝรั่งเศส” อยู่ในนั้นด้วย
ทั้งนี้ เอกสาร “ลับสุดยอด” ซึ่งเป็นระดับความลับขั้นสูงสุดนั้น จะเป็นเอกสารที่บันทึกข้อมูลด้านความมั่นคงระดับประเทศ และจะถูกเก็บไว้ในสถานที่พิเศษของทางการสหรัฐฯ เพราะหากหากข้อมูลดังกล่าวได้รับการเปิดเผยออกมาอาจเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ
ขณะที่สหรัฐฯ มีการบังคับใช้กฎหมายในการห้ามการจัดการข้อมูลเหล่านี้อย่างไม่ถูกต้องเหมาะสมอยู่มาก ซึ่งรวมถึงกฎหมายจารกรรม และอดีตปธน.ทรัมป์เองได้เพิ่มโทษที่รุนแรงขึ้นภายใต้กฎหมายดังกล่าวเมื่อครั้งที่ยังดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ โดยระบุให้เป็นความผิดอาญา มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี
กระทรวงยุติธรรมยื่นขอให้ศาลเปิดข้อมูลหมายค้นในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐฯ โดยเอกสารของกระทรวงฯ ระบุว่า มีเหตุที่น่าจะเชื่อได้ว่าอดีตปธน.ทรัมป์ ละเมิดกฎหมายจารกรรม กฎหมายที่ห้ามการครอบครองหรือส่งต่อข้อมูลด้านกลาโหมของประเทศ
เมื่อวันศุกร์ อดีตปธน.ทรัมป์ ปฏิเสธประเด็นที่สื่อวอชิงตันโพสต์ รายงานว่า การตรวจค้นบ้านพักที่มาร์-อะ-ลาโก ของเอฟบีไอ ที่พบว่ามีเอกสารลับสุดยอดเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ โดยระบุในบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของเขาว่า “เรื่องอาวุธนิวเคลียร์นั่นเป็นเรื่องหลอกลวง” ขณะที่รอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันในรายงานของสื่อวอชิงตันโพสต์ได้ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมอร์ริค การ์แลนด์ ที่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยต่อสาธารณชนเกี่ยวกับรายละเอียดของการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้
- ที่มา: รอยเตอร์
