รัฐบาลจีนประกาศในวันพฤหัสบดีว่า จะยกเลิกภาษีนำเข้าสำหรับไวน์จากออสเตรเลียที่สั่งเรียกเก็บเมื่อ 3 ปีก่อน ขณะที่ ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศเริ่มพัฒนาดีขึ้นแล้ว
กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า มาตรการใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์เป็นต้นไป
จีนสั่งเรียกเก็บภาษีนำเข้าสำหรับไวน์จากออสเตรเลียเมื่อปี 2020 ในช่วงที่ ความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองมีปัญหากัน เนื่องจากออสเตรเลียให้การสนับสนุนเสียงเรียกร้องจากทั่วโลกให้มีการสืบค้นต้นตอของโควิด-19
ภายใต้มาตรการดังกล่าว ภาษีนำเข้าของไวน์ออสเตรเลียพุ่งสูงขึ้นเป็น 200% เลยทีเดียว ขณะที่ มาตรการที่ว่าส่งผลกระทบหนักจากผู้ผลิตไวน์ออสเตรเลีย เนื่องจากจีนเป็นตลาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของผลิตภัณฑ์นี้
เหอ หย่าตง โฆษกของกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า จีนและออสเตรเลียเป็น “หุ้นส่วนทางการค้าที่สำคัญของกันและกัน” และว่า “เรายินดีที่จะทำงานร่วมกับออสเตรเลียเพื่อแก้ไขปัญหาความกังวลระหว่างกัน ผ่านการหารือและการปรึกษาหารือ และร่วมกันส่งเสริมพัฒนาการที่ดีและมั่นคงในด้านความสัมพันธ์ทางการค้าและทางเศรษฐกิจในระดับทวิภาคี”
รายงานข่าวชี้ว่า ตัวเลขการค้าระหว่างจีนและออสเตรเลียในปี 2019 ก่อนจะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าไวน์ สูงถึงระดับ 1,100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 710 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ต่อปี
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโทนี อัลบาเนซี กล่าวว่า จากนี้ไป ระดับการค้าของสองประเทศน่าจะเพิ่มขึ้นต่อไป เมื่อข้อจำกัดต่าง ๆ ลดหายไป พร้อมระบุว่า “จีนต้องการไวน์คุณภาพดี และออสเตรเลียก็ผลิตสินค้าที่ว่านี้อยู่”
มีการประเมินว่า มาตรการภาษีของจีนที่ไม่ได้พุ่งเป้าไปเฉพาะไวน์ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจออสเตรเลียเป็นมูลค่าราว 20,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เลยทีเดียว
ทั้งนี้ จีนค่อย ๆ ยกเลิกภาษีนำเข้าต่าง ๆ ที่เรียกเก็บจากออสเตรเลียไปจนเกือบหมดแล้ว ขณะที่ ความสัมพันธ์ของสองประเทศพัฒนาดีขึ้น หลังมีการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลกรุงแคนเบอร์ราที่มีอัลบาเนซีเป็นผู้นำ ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว
- ที่มา: วีโอเอ
กระดานความเห็น